สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนพระราหุล (ซึ่งมีพระชันษาไม่ถึง ๑๐ ขวบ)
ด้วยวิธีการยกตัวอย่าง เปรียบเทียบว่า...เธอเห็นน้ำในกะลานี้ไหม
พระราหุลทรงตอบว่า...เห็นพระเจ้าค่ะ
พระองค์ทรงเทน้ำในกะลาออกไป
แล้วก็ทรงถามพระราหุลว่า ‘น้ำในกะลาที่เทออกไป’ กับ ‘น้ำที่ติดอยู่ที่ก้นกะลา’ อันไหนมากกว่ากัน
พระราหุลทรงตอบว่า…น้ำที่เทออกไปมากกว่า
พระองค์ก็ทรงสาดออกไปอีก และถามพระราหุลว่า
‘น้ำที่เหลืออยู่ในกะลา’ กับ ‘น้ำที่สาดออกไป’ อันไหนมากกว่ากัน
พระราหุลก็ทรงตอบว่า…น้ำที่สาดออกไปมากกว่าพระเจ้าค่ะ
พระองค์ก็ทรงคว่ำกะลา น้ำก็ไม่เหลืออยู่เลย
แล้วทรงสอนพระราหุลว่า...คนที่ไม่ซื่อสัตย์ ก็เปรียบเหมือนน้ำที่ถูกสาดออกไป
เหมือนน้ำที่เหลือติดก้นกะลาน้อยหนึ่ง แล้วถ้าคว่ำกะลา ก็ไม่เหลือเลย
คำพูดของคนที่ไม่ซื่อสัตย์ ก็เหมือนคนที่ไม่มีน้ำติดเหลือที่ก้นกะลา ใครจะเชื่อถือ
ถึงแม้ว่าจะเป็นนักบวช เป็นเถรี ใครจะเชื่อถือ ในเมื่อเหมือนน้ำที่เพียงติดก้นกะลาเท่านั้น
วาจาของคนก็เหมือนน้ำ ถ้าอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ ก็จะเป็นประโยชน์
แต่ถ้าถูกสาดออกไป พูดมาก เพ้อเจ้อ ไม่รู้เรื่อง และไม่รู้จักประมาณ
อันนี้น่าห่วงใยมากเลยในสังคมของเรา
เราก็เหมือนคนที่ไม่ซื่อสัตย์ เหมือนน้ำที่ติดอยู่ที่ก้นกะลา ที่ไม่น่าเชื่อถือ
อายุมากแล้วก็ยังไม่น่าเชื่อถือ เหมือนน้ำติดก้นกะลา
พระราหุลก็ทรงเห็นเป็นภาพ และทรงเข้าใจ